เทคโนโลยีสำคัญกับผู้สูงอายุ

Card image cap

สำนักงานสถิติแห่งชาติได้สรุปผลที่สำคัญ จากการสำรวจการมีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในครัวเรือน พ.ศ.2563 และพบว่ากลุ่ม Baby boomer ( อายุ 56-74 ปี ) ใช้อินเทอร์เน็ตวันละ 8 ชั่วโมง 41 นาที และบริการที่ใช้มาก 3 ลำดับได้แก่

 1. ใช้ Social media    89.3%

2. ใช้ Line    93.1 %

3. ใช้ Youtube     88.4%

 นอกจากนี้ในปี 2563 ยังพบว่า กลุ่มอายุ 50 ปีขึ้นไปใช้อินเทอร์เน็ตร้อยละ 49.7

กรมกิจการผู้สูงอายุ ได้แนะนำเรื่องที่ผู้สูงอายุหรือผู้ที่ก้าวเข้าสู่วัยสูงอายุควรเตรียมพร้อมในการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในประเด็นต่อไปนี้

1.      การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมให้เป็นประโยชน์ต่อตัวเองในปัจจุบัน และเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ

1)      การส่งเสริมสุขภาพ การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการดูแลสุขภาพ

การสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันรักษาโรคภัยไข้เจ็บ และการฟื้นฟูสมรรถภาพ

ร่างกาย เช่น การใช้แอปพลิเคชัน สุข สูงวัย, สูงวัย ไม่กลัวล้ม, สูงวัย ไม่ลืม เป็นต้น

2)      การเดินทาง ทำให้การเดินทางสะดวกสบายและง่ายขึ้น สามารถเรียกรถ ส่งของ วางแผนการท่องเที่ยว จองตั๋วการเดินทาง และสำรองที่พัก โรงแรม  เช่น วางแผนการเดินทางด้วย  Google map จองโรงแรมด้วย แอปพลิเคชัน Traveloka เรียกรถแท็กซีด้วยแอปพลิเคชัน Grab เป็นต้น

3)      ระบบการเงิน  การใช้เงินสดกำลังถูกแทนที่ด้วยระบบการชำระเงินดิจิทัล  การซื้อของหรือชำระค่าบริการต่าง ๆได้ด้วยช่องทางการชำระเงินในรูปแบบต่าง เช่น  พร้อมเพย์ (PromtPay)  Mobile Banking หรือบริการธุรกรรมการเงินผ่านแอปพลิเคชัน ของธนาคารมาใช้ในมือถือ โดยไม่ต้องไปหน้าเคาน์เตอร์ธนาคารเหมือนในอดีต

หรือ Money Wallet กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Wallet ซึ่งเป็นการชำาระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ

4)      การสื่อสารและการเรียนรู้  เทคโนโลยีช่วยให้เกิดการเรียนรู้มากขึ้น เพราะทำให้

เข้าถึงและสื่อสารกันง่ายขึ้น สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้ในสิ่งที่สนใจร่วมกันได้โดยผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เช่น  Instagram Facebook Twitter เป็นต้น หรือการสื่อสารโต้ตอบกันได้ทันที ด้วยโปรแกรม Zoom  Google Meet เป็นต้น

5)      การส่งเสริมและพัฒนาจิตใจ เราสามารถใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาและบำบัดจิตใจ

ได้ เช่น แอปพลิเคชันฝึกสมาธิ calm  รวมทั้งการใช้เทคโนโลยีประเภทเกม ด้วยแอปพลิเคชัน เกมฝึกสมอง ชื่อ MONICA หรือเล่นดนตรี ด้วย แอปพลิเคชัน ดนตรีบำบัดเป็นต้น

2.      การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างรู้เท่าทัน ปกป้องการตกเป็นเหยื่อ จากมิจฉาชีพ การรู้เท่าทันสื่อ คือ การรู้จักคิด วิเคราะห์ สงสัย และตั้งคำถามว่า สิ่งนั้นจริงหรือไม่จริง ใครเป็นคนให้ข้อมูล เขาต้องการสื่ออะไร หรือมีจุดมุ่งหมายแอบแฝงหรือไม่ ตัวอย่างภัยที่มาจากสื่อสังคมออนไลน์

1)      การแชร์ข่าว หรือข้อมูลปลอม

2)      หลอกให้โอนเงินช่วยเหลือทางโซเชียลมีเดีย

3)      หลอกให้โอนเงินและแจ้งว่าจะนำไปบริจาคต่อ

4)      หลอกว่าได้รับรางวัลใหญ่

5)      หลอกลวงขายของออนไลน์

6)      หลอกให้เปิดบัญชีเพื่อเป็นช่องทางให้โอนเงินผ่าน และยื่นข้อเสนอจะให้ผลตอบแทน

  อ้างอิง : 

 สำนักพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ Thailand Internet User Behavior  2020  pg. 39 and 77.

 

https://www.etda.or.th/getattachment/c5835c06-e238-4cda-9816-814df31caca5/IUB_2020_Web.pdf.aspx